วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2558

เสือหมอบสุดหรูในฝัน

มาทำความรู็จักกับ 4 เสือหมอบสุดหรูในฝัวของหลายๆคนกัน ลองศึกษาหากิเลสในใจตนไม่ว่าอยากได้หรือไม่อยากได้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ครับว่าในปี 2015 นี้ เสือหมอบ 4 คันนี้ถือว่า"หรูหราดาวล้านดวง" เป็นที่สุดแล้วไม่ว่าจะด้านราคา ราศี ชาติตระกูล ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่จักรยานฝังเพชรเลี่ยมทองแต่อย่างใด แต่มาพร้อมสมรรถนะระดับ"เหนือเทพ"ที่บ่งบอกว่าเจ้าของ"ไม่ใช่แค่มีเงินอย่างเดียว" สำหรับเราๆนักจักรยานไม่ว่าจะมีปัญญาสอยหรือไม่ อาจจะแค่เมียงมอง หรือเมินไม่สนก็ตามที รู้ไว้ใช่ว่ากันครับ เพราะถ้าโลกนี้มีซุปเปอร์คาร์ระดับหรู จักรยานพวกนี้ก็เป็น ซุปเปอร์หมอบสุดหรูเช่นกัน


LOOK 795 AEROLIGHT
จากค่าย Look ดินแดนไวน์ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งฮือฮามาตั้งแต่ก่อนเปิดตัวนานมากด้วยรูปโฉมที่สุดเด่นเอกลักษณ์เสต็มและชุดคอซ่อนแบบ integrated ออกแบบด้วยระบบอากาศพลศาสตร์ที่ได้เปรียบเรื่อง aerodynamic สูงมากในขณะที่ไม่ได้เพิ่มน้ำหนักเข้าไปจากเดิม ทำให้ Look 795 สามารถทำน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์เดียวกับรถแข่งระดับโปร 6.8 กก. ได้ สามารถไต่เขาได้ดีและได้เปรียบเป็นอย่างยิ่งในการลงเขาและขี่ทางราบ คงไม่ต้องพูดถึงหน้าตาที่แสนจะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่ผู้ได้ครอบครองภาคภูมิใจกับเสือหมอบคันแรกที่ทำระบบคอซ่อนแบบนี้


GURU PHOTON HL
เสือหมอบที่เบาที่สุดในตลาด ณ เวลานี้ แถมพ่วงด้วยค่าความสติฟต่อน้ำหนักหรือ stiffness-to-weight ที่สูงที่สุดติดอันดับแนวหน้าชนกับเฟรมระดับแข่งขันของแบรนด์ดังๆมากมาย เด่นที่สุดด้วยการสร้างเฟรมให้เหมาะกับคนขี่แต่ละคนแบบ custom made ทั้งขนาดและการเลือกชนิดและการวางคาร์บอนให้เหมาะสมกับไสตล์การขี่ของแต่ละคน แน่นอนว่า Photon HL เป็นรถสำหรับนักไต่เขาแท้ๆ แต่ก็มาด้วยบุคลิกแบบไวจัดได้ การควบคุมโค้งที่เฉียบคม แถมมีตัวเลือกให้เลือกเล่นได้ทั้งแบบที่สติฟสุดๆไปเลย หรือจะให้มีความสบายแบบ vertical compliant ที่ดี น้ำหนักชุดเฟรมขนาด 54cm พร้อมชุดร้อยสายชั่งได้ต่ำกว่า 650 กรัมเท่านั้น


PEGORETTI MARCELO
มาดูเฟรมสตีลที่ได้ชื่อว่ามีสมรรถนะและการตอบสนองดีผิดกับสตีลโดยทั่วไป โดยการผลิตแบบพิเศษและการใช้อุณหภูมิสูงกับท่อโอเวอร์ไซส์ของ Dario Pegoretti ซึ่งออกแบบตะเกียบแบบพิเศษ Falz mี่มีความสติฟสูงที่สุดในกลุ่มสตีลด้วยกัน รวมถึงสามเหลี่ยมด้านหลังที่ออกแบบพิเศษส่งแรงกระทำตอบสนองกับกำลังที่ส่งลงไปที่ชุดจับเคลื่อนได้โดยสูญเสียน้อยที่สุด มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับอลูมินั่มหรือคาร์บอนในปัจจุบัน ตะเกียบหน้ามีความสติฟสูงแต่ก็ออกแบบให้มีระยะห่างระหว่างตะเกียบกับล้อที่กว้างแบบเฟรมสตีลโดยทั่วไป มากับชุดถ้วยคอ Chris King และชุดปรับแรงตึงสายทำจากทองเหลือง งานสีและงานเคลือบเรียกได้ว่าเข้าขั้นงานศิลปะฝีมือล้วนๆ เฟรมมีน้ำหนัก 1.9 กก. ซึ่งจัดว่าเบามากสำหรับเฟรมสตีล แต่ยังคงให้ความสบายนุ่มไหลแบบเฟรมสตีลในตำนาน


PARLEEALTUM R
น้ำหนักเฟรม 810 กรัม น้ำหนักตะเกียบ 330 กรัม และการเลือกเรียงคาร์บอนแบบ high-modulus ในส่วนสำคัญต่างๆทำให้ Altum R ตัวนี้มีน้ำหนักเบาและมาพร้อมกับสมรรถนะในการขี่ที่ดีเยี่ยมและอายุการใช้งานคงทนรับประกันตลอดอายุของ Parlee ซึ่งออกแบบมาให้เป็นรถไต่เขาที่พุ่งขึ้นเขาไปได้แบบแพะภูเขา คล่องตัวปราดเปรียวยามเข้าโค้ง สปรินท์ได้ดีส่งพลังได้แข็งแกร่ง และมีความสบายพอจะขี่บนเส้นทางการแข่งคลาสสิคทั้งวันได้ด้วยการออกแบบเลือกใช้คาร์บอนที่แตกต่างกันในแต่ละส่วนและการเรียงวัสดุเพื่อให้ได้การกระจายแรงที่ดีที่สุด ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับการรองรับขนาดหน้ายางได้ถึง 28mm ทั้งหน้าและหลัง แถมเลือกได้ทั้งแบบสำหรับเบรคทั่วไปและ disc break ต้องยอมรับว่า Parlee สร้างมาตรฐานเสือหมอบสุดหรูสำหรับอนาคตอย่างแท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น