วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ขี่ลุยฝน อย่างไรให้ไม่หมดสนุก


หน้าฝนไม่ถึงก็จวน พายุฤดูร้อนโหมกระหน่ำมาเตือนเป็นระลอกๆว่ใกล้เข่าสู่ช่วง"นอกฤดูกาล" หรือ off season สำหรับนักปั่นหลายๆคน แต่ฝนไม่ใช่อุปสรรคที่จะทำให้ความสนุกของจักรยานหมดไป หรือเป็นอุปสรรคต่อการออกปั่นทิ้งให้จักรยานคันเก่งฝุ่นจับอยู่กับบ้าน ลองมาเอาทริคและข้อควรระวังต่างๆไม่กี่ข้อนี้ไปใช้ หน้าฝนก็ยังคงปั่นได้อย่างแน่นอน ขี่ลุยฝน อย่างไรให้ไม่หมดสนุก

1.หาข้อดีของฝน
มันเปียก เฉอะแฉะ ถนนเจิ่งนอง มองไม่เห็นทาง รถสาดน้ำใส่ ถ้ามองว่าน้องฝนเรามีแต่ปัญหาก็จะไม่อยากออกไปปั่นจักรยาน ลองคิดถึงข้อดีที่น้องฝนโปรยลงมาบ้างเหมือนกับวลี"คิดบวก"อย่างเช่น อากาศเย็นกว่าปกติไม่โดนแดดเผา อัตราการเสียน้ำลดลง อัตราชีพจรลดลงในการออกแรงเท่าเดิม เท่ากับว่าร่างกายได้ซ้อมถึงพริกถึงขิงได้ง่ายๆ ยังไม่นับว่าฝนทำให้ถนนบางเส้นโล่งสบายไม่มีคนกวนใจปั่นได้เต็มที่ ผมเชื่อว่าต้องมีคนเคยคิดแน่ๆล่ะว่า "เปียกก็ดีกว่าร้อน"

2.เตรียมรถให้ปลอดภัยในหน้าฝน
ฝนและถนนเปียกๆส่งผลต่อการขับขี่อย่างแน่นอนไม่ต้องสงสัยเลย สิ่งต่างๆที่ควรเตรยมเซ็ทหรือเช็คให้พร้อมใช้งานในหน้าฝนก็ไม่ต่างอะไรกับรถยนต์นัก อาทิเช่นระบบเบรคที่ควรทำงานได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มล้อคาร์บอน ลองตรวจสอบผ้าเบรคดูว่าผ่านมากี่พันกิโลเมตร ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้วหรือยังนะ ลองตรวจสอบจุดหมุนและแบริ่งต่างๆดูว่ายังเหลือจารบีอยู๋หรือไม่ เพราะจารบีต่างๆช่วยป้องกันหรือลดน้ำที่จะเข้าไปข้างในระบบได้ จุดหมุนแห้งสนิทอาจดูลื่น แต่เมื่อเจอกับฝนเข้าไปแห้งเมื่อไหร่ทิ้งไว้สิ่งที่ตามมาคือสนิมที่จะพาเอาความเสียหายมาด้วยนั่นเอง อย่าลืมตรวจเช็คยางนอกและทุกครั้งที่ขี่จัรกยานบนถนนเปียกลองกดเอาลมออกจากยางเสียหน่อยเพื่อให้ยางมีผิวสัมผัสกับพื้นมากขึ้น แม้แต่หาบังโคลนมาติดซะก็ไม่ได้ทำให้รถหมดความซิ่งลงไป เพราะสมัยนี้โปรเองก็ซ้อมกันแบบมีบังโคลนติดแล้วในฤดูที่ฝนตกทุกวัน ที่สำคัญอย่าลืมไฟหน้าไฟท้าย ถึงจะไม่ได้ช่วยให้มองเห็นทางแต่ช่วยให้คนอื่นมองเห็นเราได้งา่ยในกรณีฝนตกหนักจนทัศนวิสัยลดลง

3.ขี่ให้ปลอดภัยกว่าปกติ
ถนนเปียก ถนนลื่น เบรคลื่น ดังนั้นการห้ามล้อหรือควบคุมรถก็ทำได้ยากขึ้น ข้อระวังแรกของการขี่จักรยานคือเลือกใช้ความเร็วที่เมหาะสม อย่าเร็วเกินไปในที่ๆเสี่ยง อย่าลุยลงไปในน้ำลึกเพราะคงไม่อยากเสี่ยงเจอหลุมหรือฝาท่อที่จมอยู่ เข้าโค้งด้วยความเร็วที่มั่นใจเท่านั้นอย่าดื้อกับความมันส์ หากขี่กันเป็นกลุ่ม พยายามทำตัวเองให้นิ่งที่สุดและมีพฤติกรรมที่คาดเดาได้เพื่อให้เพื่อนที่ขี่ด้วยไม่ต้องมาลุ้นว่าจะต้องเบรคจึ๊กหรือหลบท้ายสะบัดหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เผื่อระยะปลอดภัยมากกว่าปกติเสมอ และคิดเสมอว่าโอกาสเกิดเหตุไม่คาดฝันมากกว่าเดิม ดังนั้นพยายามสื่อสารกันมากกว่าปกติ

4.แต่งตัวให้เหมาะสม
เสื้อกันฝนหรือแจ็คเก็ทกันลมสำหรับจักรยานเลือกที่เนื้อผ้าบางเบาและไม่ยาวจนคลุมลงมาที่ล้อจนโดนล้อเกี่ยวพันเข้าไปได้ ใช้เสื้อผ้าที่มีสีสดใส อย่ามัวแต่กลัวจะไม่แฟชั่นใส่ชุดปั่นสีดำทันสมัยนิยมแต่โดนรถสอยไปกินเพราะเค้ามองไม่เห็นเรา ถ้ารู้ว่าจะไปขึ้นเขาสูงที่อากาศหน้าวอย่าลืมเผื่อเสื้อกันลมไปด้วย ที่สำคัญของเล็กๆน้อยๆบางอย่างช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นมากเช่นแว่นตาแบบใสหรือเลนส์สีอ่อนช่วยกันเม็ดฝนเข้าตา หมวกแก็ปจักรยาน(ที่ใส่กันเอาแฟชั่น)ช่วยลดเม็ดฝนที่เข้าตาและหน้าได้เวลาขี่เร็วๆ แม้แต่การพกผ้าซับน้ำดีๆไปซักผืนก็สะดวกสบายขึ้นเวลาต้องคอยเช็ดแว่นที่เต็มไปด้วยหยดน้ำ อย่าลืมนะครับว่าเราไม่มีที่ปัดน้ำฝน

5.เช็ครถและดูแลบ่อยๆ
น้ำกับกลไกมันไม่ได้เป็นของคู่กัน หมั่นล้างรถและทำความสะอาดบำรุงรักษาจุดหมุนต่างๆบ่อยกว่าปกติ ยิ่งขี่ตักรยานตากฝนบ่อยเท่าไหร่ก็ยิ่งต้อหมั่นดูแลจักรยานมากเท่านั้น อย่างน้อยๆควรล้างจักรยานทุกครั้งหลังปั่น อย่าคิดว่าน้องฝนล้างให้แล้ว เพราะเศษดิน เศษฝุ่นที่เกาะตามเฟรมและจุดหมุนต่างๆมันคอยขีดข่วยให้เฟรมงามๆต้องมีรอย หรือแม้แต่เข้าไปฝังตัวอยู่กับจุดหมุนและทำความเสียหายได้ในระยะยาว หากจะใส่จารบีลองเลือกจารบีที่มีความหนืดกว่าปกติ แน่นอนครับว่าล้อและจุดหมุนคงไม่ลื่นปรื๊ด แต่สำหรับเราๆที่ไม่ได้มีของใช้ฟรีมันช่วยยืดอายุได้มากในหน้าฝน หลังผ่านหน้าฝนไปควรตรวจสอบจุดหมุนทั้งหมดและทำการดูแลยกเครื่องทุกชิ้น

ประเทศไทยเราถือว่าอยู่ในเขตุร้อนชื้น ฝนตกชุก โดยเฉพาะพี่น้องภาคใต้ที่ฝนตกมากกว่าครึ่งปี ...อย่าทำให้ฝนเป็นอุปสรรคต่อการออกมาปั่นจักรยานให้สุขภาพดีและมีร่างกายแข็งแรง ลองหาของเล่นเป้นชุดจักรยานแบบหน้าฝน จะเป็นแจ็คเก็ทซักตัว หรือเสื้อกันลมหล่อๆเข้ารูปพอดีตัวแบบโปร ใส่ถุงมือ หมวกแก็ป ให้แลเผินๆคล้ายโปรจักรยานฝรั่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็ไม่เลวนะครับ อย่างน้อยก็ทำให้เราอยากออกมาปั่นจักรยานบ่อยกว่าเดิม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น